มีวันไหนบ้างที่พ่อแม่ไม่รักเรา แล้วมีนาทีไหนที่เรา รักพ่อแม่คิดถึงพ่อแม่ ถ้าหากไม่ลำบากอย่างที่สุด ถ้าหาก ไม่ทุกข์ก็คงจะไม่วิ่งมาหาพ่อหาแม่ขอความช่วยเหลือ สร้าง ความลำบากใจตั้งแต่เกิดจนถึงตาย หาความจริงใจไม่ได้ ใครล่ะจะเป็นผู้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้กตัญญู ที่กระทำออก มาให้เพื่อนเขาเห็น ทำเอาหน้า ที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ใน สังคมอย่างสบาย อย่างเชิดชูหรูหรา อย่างมีคุณค่า อย่างที่คนอื่นเขาเคารพยกย่อง แต่เบื้องหลังถามตัวเองว่ามีความ กตัญญู มีคุณค่าพอที่จะให้คนอื่นเขายกมือไหว้หรือเปล่า จะสำนึกเปลี่ยนแปลงใจภายในของตัวเองหรือเปล่า..
ถ้าหากวันนี้เราเกิดมาจากพ่อแม่แต่ขาดซึ่งจิตกตัญญูก็เหมือนกับกาฝากดีดีนี่เอง ที่สูบกินแต่ผลประโยชน์ ต้นไม้ที่โดนโคลนสูบนั้นก็เหลือแต่ซากรอวันตาย ไม่เหลืออะไรเลย ถ้าหากไม่สำนึก ต้นไม้ไร้รากย่อมขาดชีวิต ผู้ไร้กตัญญูก็ไม่ควรที่จะอยู่ในโลกนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ใดบ้างที่ไม่มีความกตัญญูแล้วสำเร็จเป็นสิ่งศักดิ์ สิทธิ์ เพื่อนให้น้ำดื่มเพียงนิด กินเพียงหนึ่งมื้อ ยังรู้สึกสำนึกซาบซึ้งในบุญคุณของผู้อื่น แต่ผู้หุงหาอาหารให้เรากินตลอดชีวิต เรากลับละเลยไม่รู้ซึ้งถึงบุญคุณ...
หากวันนี้เราผู้เป็นพ่อแม่เองจะต้องดำรงอยู่ในธรรม ในครรลอง รู้จักนำพาบุตรหลานให้สู่หนทางที่ถูก รู้จักฟัง ธรรม รู้จักกตัญญู โลกนี้จึงจะมีความหวัง ไม่ใช่ส่งเสริมให้ลูกเอาแต่แสวงหาทรัพย์ แสวงหาชื่อเสียง ทรัพย์ชื่อเสียงแสวงหาเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ มันยังไม่สายถ้าจะเริ่มต้นในวันนี้ แต่มันจะสายเมื่อไม่รู้จักที่จะเริ่มต้น...
เราเลี้ยงดูเอาใจใส่ท่าน เราให้ความสบายอกสบายใจ มีไหมมือของท่านที่จะวอนขอต่อลูก มีแต่จะให้และให้ ตลอดกาล ให้ตลอดไป ลูกๆ ทั้งหลายที่แล้วมาไม่เคยเลย ที่จะเอาใจใส่ หรือแค่เพียงผิวเผินผ่านเลยไป จะสำนึก อย่างจริงใจนั้นก็หาไม่ พลาดผิดไปแล้วก็ยังคงได้รับการ อภัยตลอดมา ลูกเจ็บนิดเจ็บหน่อยพ่อแม่ก็รีบร้อนเอาใจใส่ แต่บัดนี้ดูซิมือไม้แห้งกร้าน หน้าตาเหี่ยวย่น ผมเผ้าหงอกขาว ตาพร่ามัว...
วันนี้สองมือที่เคยให้ความอบอุ่น พรุ่งนี้ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ก็หวังจะให้ลูกผู้แข็งแรง เติบโตด้วยกันมาช่วยกันดูแลเอาใจใส่ท่านบ้าง หวังจะได้พึ่งยามแก่ หวังยามตายให้ลูกได้ปิดตาให้ ไม่เคยหวังอะไรนอกไปจากนี้...
จากบทความ : กตัญญูสะเทือนฟ้า โอวาทหนึ่งในแปดเซียนหลี่เถี๋ยไกว่
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น