หนุ่ม ๆ สมัยนี้ นอกจากจะหันมาสนใจเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของตัวเองกันมากขึ้นแล้ว เรื่องของรูปร่างก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย เพื่อฟิตแอนด์เฟิร์มกล้ามเนื้อให้แน่นเปรี้ยะอยู่เป็นประจำ ที่สำคัญยังต้องบำรุงร่างกายเพิ่มด้วยอาหารที่ให้พลังงานสูงด้วย ซึ่งยังมีอีกหลาย ๆ คน ที่อาจยังไม่ทราบว่าอาหารเหล่านั้นมีอะไรบ้าง วันนี้ ทีมงาน toptenthailand จึงมาช่วยไขข้อสงสัยเรื่องนี้ให้ทราบกัน ใน "10 อันดับ สุดยอดอาหารเพิ่มพลังงานที่คุณต้องลอง " |
|
|
ถ้าหากคิดว่ากาแฟมีสารคาเฟอีนมาก เมื่อดื่มเข้าไปแล้วทำให้ใจสั่น งั้นลองหันมาดื่ม "ชา" แทนดีกว่า เพราะชาก็มีประโยชน์ไม่แพ้กาแฟ แถมยังมีคาเฟอีนน้อยกว่าด้วย (ชาแต่ละชนิด มีปริมาณคาเฟอีนไม่เท่ากัน) นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยพัฒนากระบวนการป้องกันสารพิษในร่างกาย และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถชะลอความแก่ รวมทั้งต้านโรคมะเร็งได้อีกด้วย ที่สำคัญช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เครื่องดื่มยอดนิยมของคนทำงานแทบทุกคน เพราะในกาแฟมีสารคาเฟอีนอยู่จำนวนมาก ซึ่งช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งช่วยเพิ่มการทำงานเอนไซม์ในการกำจัดสารที่เป็นอันตรายด้วย |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คงไม่ต้องกล่าวอะไรให้ยืดยาวมากเกี่ยวกับประโยชน์ของ "น้ำ" เพราะเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกายคนเราอย่างมาก เนื่องจาก 70 เปอร์เซ็นต์ ของร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำ โดยน้ำช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ลดปัญหาท้องผูก ช่วยชะลอความแก่ เนื่องจากถ้าเซลล์ในร่างกายขาดน้ำเรื้อรัง และมีอนุมูลอิสระจะทำให้เซลล์เสื่อมสภาพลงทำให้ดูแก่ขึ้น การดื่มน้ำ ควรดื่มวันละประมาณ 2–3 ลิตร และจิบน้ำในระหว่างวันให้บ่อย แล้วคุณจะรู้สึกได้เลยว่า น้ำช่วยให้ร่างกายกะปรี้กะเปร่าขึ้น และเติมเต็มความสดชื่นให้กับร่างกายอย่างเต็มที่ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ผลไม้ คือ แหล่งรวมสารอาหารที่มีประโยชน์ชั้นดีจำนวนมาก ซึ่งในผลไม้บางชนิดยังให้พลังงานกับร่างกายที่สำคัญ เช่น กล้วย, แอพพริคอท, แคนตาลูป และกีวี โดยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม, น้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด (ซูโครส, ฟรุคโทส และกลูโคส), วิตามินอีกนานาชนิด, เกลือแร่, สารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งยังมีเส้นใยที่ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เรียกว่าจัดหนัก จัดเต็มพลังงานและคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ควินัว (Quinoa) คือ เมล็ดพืชประเภทข้าวชนิดหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นของหาซื้อได้ยาก แต่เป็น เมล็ดพืชที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมาก โดยจะให้สารอาหารประเภทโปรตีน, คาร์โบไฮเดรท, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม และมีไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ยังเหมาะเป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยนะ |
|
|
|
|
|
|
|
5 | ข้าวโอ๊ตแผ่น (Old-fashioned oats) |
|
|
|
ความจริงแล้ว ข้าวโอ๊ตชนิดนี้มีลักษณะต่างจากข้าวโอ๊ตที่เคยเห็นกันทั่ว ๆ ไป เพราะจะมีการนำมาอบไอน้ำแล้วบดให้แบนก่อน โดยอาหารชนิดนี้อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต, วิตามินบี, ไฟเบอร์ และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมล็ดพันธุ์ มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับถั่วอยู่หลายอย่าง เช่น มีไขมันไม่อิ่มตัว, ไฟเบอร์, วิตามิน, โอเมก้า 3, แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญเมื่อทานเข้าไปแล้วจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน และให้พลังงานกับร่างกายสูงอย่างที่คุณคาดไม่ถึง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตัวอย่างเช่น อัลมอนด์, วอลนัท, พีแคน, และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งของขบเคี้ยวกินเพลิน ๆ เหล่านี้ นอกจากจะให้ความอร่อยแล้ว ถั่วยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง มีไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังมีไฟเบอร์, วิตามิน, โอเมก้า 3, แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย โดยคุณสามารถกินเปล่า ๆ เป็นของว่าง หรือจะนำไปปั่นทำเป็นสมูทตี้ใส่ในเครื่องดื่มเย็น ๆ ก็ยังได้ อย่างไรก็ดี ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้นะ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ไข่ คือ แหล่งพลังงานชั้นดีที่คนทั่วโลกมักนำมาใช้ในการประกอบอาหาร เพราะสามารถนำมาปรุงได้อย่างหลากหลาย จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยสารอาหารอีกหลายชนิด ทั้งวิตามิน, เกลือแร่, ธาตุเหล็ก, วิตามินดี, บี 12, เอ ไอโอดีน เซเลเนียมและโปรตีน โดยมีกรดอะมิโนที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตอยู่ในไข่ใบเล็ก ๆ อีกจำนวนมาก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หลาย ๆ คนคงทราบกันดีว่า "ปลา" คือ อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งให้คุณประโยชน์กับร่างกายมากมาย เช่น ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ โรคข้ออักเสบ และที่สำคัญช่วยลดความอ้วนได้ด้วยน่ะสิ โดยโอเมก้า 3 จะพบมากในปลาทะเล และปลาน้ำจืดบางชนิด |
|
|
|
|
|
|